ใช้ Whirlfloc แทนการ Cold Crash ได้รึเปล่า

ตารางเปรียบเทียบ Whirlfloc และ Cold Crash ในกระบวนการทำเบียร์

Whirlfloc กับ Cold Crash ต่างกันยังไง? ใช้ Whirlfloc แทนการ Cold Crash ได้รึเปล่า เป็นคำถามที่มีถามเข้ามาบ่อย ๆ สำหรับเรื่อง การใช้ Whirlfloc แทนการ Cold Crash ได้รึเปล่า

บทความนี้จะพูดถึง บทบาทของ Whirlfloc และการทำ Cold Crash ในเครื่องดื่มเบียร์นะคะ

2 วิธีที่ได้รับความนิยมในการทำให้เบียร์ให้ใส คือ การใช้ Whirlfloc และ การ Cold Crashing แต่วิธีเหล่านี้ทำงานอย่างไร และ เราจำเป็นต้องใช้ทั้งสองวิธีเลยรึเปล่า มาดูบทบาทของแต่ละวิธีกันค่ะ

Whirlfloc คืออะไร?

Whirlfloc เป็นสารที่ช่วยตกตะกอน (fining agent) ซึ่งผลิตจากคาร์ราจีแนน (carrageenan) ทำจากสาหร่ายทะเล โดยจะถูกเติมลงไปในช่วง 10-15 นาทีสุดท้ายของการต้มเบียร์ จุดประสงค์หลักของ Whirlfloc คือ การจับตัวกับโปรตีนและอนุภาคที่ทำให้เบียร์ขุ่นใน wort

วิธีการทำงานของ Whirlfloc

เมื่อเติม Whirlfloc ลงไปในช่วงท้ายของการต้มเบียร์ จะทำให้โปรตีนจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ขึ้น ทำให้กลุ่มก้อนเหล่านี้มีน้ำหนักมากขึ้น และจะตกลงไปที่ก้นหม้อในช่วงที่เราทำ whirlpool ค่ะ หรือ เราปล่อยให้ wort อยู่นิ่งๆค่ะ

ประโยชน์ของ Whirfloc

การใช้ Whirlfloc จะช่วยลดความขุ่นในช่วงแรกของการผลิต ทำให้ง่ายต่อการทำให้เบียร์ใสในขั้นตอนต่อไป

Cold Crash คืออะไร?

Cold Crash เป็นวิธีที่เกิดขึ้นหลังการหมักค่ะ โดยการลดอุณหภูมิของเบียร์ที่เราหมักเสร็จลงอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปจะลดลงจนใกล้ 0°C (32°F) กระบวนอาจทำให้ถังหมัก หรือ ถังที่เราใช้ไว้สำหรับ Condition เบียร์ไว้ก็ได้

วิธีการทำงานของ Cold Crash

การลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็วทำให้เศษต่างๆที่ลอยอยู่ในถังอยู่ เช่น ยีสต์ เศษฮอปส์ และโปรตีน ให้ตกตะกอนลงมาก้นถัง เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำ หรือเย็นนั้น จะลดความสามารถในการละลายของเศษเหล่านี้ค่ะ

ประโยชน์ของการ Cold Crash

Cold Crash ช่วยทำให้เบียร์ใสขึ้น ทำให้เบียร์มีความคงตัวมากขึ้น และทำให้การถ่ายเบียร์ลง Keg หรือขวดได้ง่ายขึ้น เพราะตะกอนจะอยู่ที่ก้นถัง

เราควร ใช้ Whirlfloc แทนการ Cold Crash ได้รึเปล่า?

ถึงแม้ว่าทั้ง Whirlfloc และ Cold Crash มีเป้าหมายเดียวกัน คือ การลดความขุ่นของเบียร์ แต่ทั้ง 2 ก็มีวิธีจัดการในขั้นตอนที่ต่างกันของกระบวนการผลิตค่ะ

  • Whirlfloc เน้นที่โปรตีน ใช้ในช่วงท้ายของการต้มเพื่อกำจัดโปรตีนที่ก่อให้เกิดความขุ่น
  • Cold Crash เน้นที่ยีสต์และเศษอนุภาคเล็ก ช่วยกำจัดยีสต์ เศษฮอปส์ และอนุภาคเล็กๆที่เกิดหลังการหมัก

Trick เล็กๆน้อยๆ กับเรื่องความใส

เพื่อน ๆ อาจลองใช้ trick เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ไปพิจารณาและปรับใช้ได้ค่ะ

  1. Whirlpool ให้ดี
    • หลังจากเราใส Whirlfloc ไปแล้ว เราถึงเริ่มการทำ whirlpool ซึ่งการกวนน้ำให้วนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยรวม เศษตะกอน (trub) ไว้ที่ตรงกลางของหม้อค่ะ ทำให้ง่ายต่อการย้าย wort ไปยังถังหมัก
  2. มีการ Cold Crash ที่นานหน่อย
    • การปล่อยให้ Cold Crash นาน 2-3 วัน จะช่วยให้เศษต่าง ๆ ตกตะกอนได้ดีขึ้นค่ะ
  3. กรองหรือใช้สารตกตะกอนเพิ่มเติม
    • สำหรับความใสที่มากขึ้น เพื่อนๆบางคนอาจใช้สารตกตะกอนหลังการหมักอื่นๆ เช่น เจลาตินหรือไบโอไฟน์
  4. การเลือกยีสต์
    • ยีสต์บางสายพันธุ์มีคุณสมบัติที่จับตัวและจะตกตะกอนออกมาได้เอง (high floccuation) ซึ่งช่วยเสริมการ Cold Crash ค่ะ
  5. แร่ธาตุของน้ำ
    • การมีระดับ Calcium ที่เหมาะสมในน้ำ ก็ช่วยในการตกตะกอนของโปรตีน และเพิ่มประสิทธิภาพของ Whirlfloc

Happy Brewing!